วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เทคนิคจูงใจให้ลูกรับประทานอาหาร



เทคนิคจูงใจให้ลูกรับประทานอาหาร

                เด็กเล็กวัย1-3 ปี บางคนมีอาการเบื่ออาหาร เพราะกำลังสนใจสิ่งใหม่ๆรอบตัว จึงมักไม่สนใจเรื่องกิน เป็นสาเหตุให้พ่อแม่หงุดหงิด ทำให้บรรยากาศความอร่อยของการกินลดลง ดังนั้น เพื่อจูงใจให้ลูกกินอาหารอย่างเป็นสุข คู่มืออาหารและเมนูพัฒนาสมองลูกยุคสหัสวรรษ โดยสถาบันวิจัยโภชนาการนานาชาติดูเม็กซ์ ดูเม็กซ์ ฮอตไลน์ 02 315 3230 เขามีคำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ดังนี้ค่ะ
1.        
     สอนให้ลูกรู้ว่าอาหารที่ไม่มีประโยชน์นั้นมีอะไรบ้าง เช่น ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ขนมหวาน และชี้ให้ลูกเห็นโทษของอาหารที่มีประโยชน์ ด้วยการใช้นิทานเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ลูกฟังทางอ้อม
2.             เตรียมอาหารที่ลูกชอบ จัดอาหารให้ให้มีสีสันน่ารับประทาน โดยคำนึงถึงคุณค่าทางอาหารและรสชาติ
3.      จัดอาหารหลากหลายชนิดให้ลูกรับประทาน เพื่อหลีกเลี่ยงการทานอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ เพื่อให้ลูกรู้จักอาหารมากขึ้น และฝึกให้ลูกเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีและย่อยง่าย
4.             ฝึกลูกให้รู้จักรับประทานอาหารเอง แรกๆ อาจเลอะเทอะบ้าง ต่อไปลูกจะคุ้นเคยกับการกินอาหารเอง
5.             ฝึกให้ลูกกินอาหารเป็นเวลา จัดเวลาอาหารแต่ละมื้อให้เหมาะสม ให้ลูกคุ้นเคย ควรสร้างบรรยากาศในการกิน โดยปราศจากสิ่งรบกวน ที่ดึงดูดความสนใจออกจากอาหาร เช่น โทรทัศน์ ควรปิดโทรทัศน์ระหว่างทานข้าว เป็นต้น
6.             ไม่บังคับขู่เข็ญให้ลูกกิน ถ้าลูกไม่กิน ควรพูดจาชักจูงถึงประโยชน์ของอาหาร สร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการกิน เช่น กินแล้วร่างกายแข็งแรง
7.             จัดให้มีการรับประทานอาหารร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัว ทำบรรยากาศให้ผ่อนคลาย อบอุ่นสร้างความใกล้ชิดสนิทสนมที่ดีระหว่างกันในครอบครัวด้วย
8.             ชวนลูกให้มีส่วนร่วมในการจัดโต๊ะอาหาร เช่น วางช้อนส้อม รวมทั้งชวนไปตลาดเพื่อเลือกซื้อผัก ผลไม้ และวัสดุในการประกอบอาหาร ช่วยหยิบจับร่วมทำกับข้าวในครัว เท่าที่จะทำได้ เช่น เด็ดผัก เพื่อช่วยให้ลูกสนุก สนใจ และให้ความสำคัญกับอาหารมื้อนั้น
                                                หวังว่าคงจะช่วยคุณพ่อคุณแม่เลือกวิธีการที่เหมาะสมมาใช้ให้ลูกหันมารับประทานได้มากขึ้นบ้างนะคะ
                                                                                               
                                                                                                                                       ที่มา: Thaiparents.com


ไม่มีความคิดเห็น: