เล่านิทาน-อ่านให้ลูกฟัง พ่อแม่ทำได้
ฉบับนี้ครูเอขอแบ่งปันข้อมูล ความรู้ที่ได้จากการไปอบรมมาเมื่อวันที่
16-17 มิถุนายน 2555 ในโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเล่านิทาน อ่านและเล่นกับลูก
รุ่นที่ 2 เรื่อง การส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย โดยใช้กิจกรรมการหนังสือหรือเล่านิทานให้ฟังและการเล่นกับลูก
มาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
การหนังสือหรือเล่านิทานให้ฟัง การอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่วัยเด็กสามารถช่วยส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน
ช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานและช่วยกระตุ้นทักษะการอ่านทำให้เด็กมีพัฒนาการทางภาษาที่รวดเร็ว
มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาที่ใช้ด้วย
พยายามหาเวลาว่างทุกวันเพื่ออ่านหนังสือให้ลูกฟัง
เหมือนว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ลูกจะได้มีส่วนร่วมกับคนในครอบครัว และอย่ากังวลหากลูกจะมีความสนใจเพียงระยะสั้น
ลองให้เขาจับหนังสือ เปิดดูหน้าต่างๆ ด้วยตัวเอง ให้ลูกรู้สึกถึงเรื่องราว สี และรูปทรง ในหนังสือ นอกจากอ่านหนังสือแล้ว
ควรพูดคุยกับลูกทุกๆ วันเพื่อเพิ่มปริมาณคำศัพท์ใหม่ๆ ในคลังสมองของลูก
นิทานสำหรับเด็ก
ภาพและหนังสือที่ปรากฏบนหนังสือนิทาน คือ โลกของภาษา การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง
จึงมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาของเด็ก เพราะเป็นอาหารสมองและอาหารใจของลูก
การทำให้เด็กรักการอ่านหนังสือไม่ยากเพราะเด็กมีความอยากรู้อยากเห็น
ชอบสนุกสนานถ้าได้หนังสือที่ชอบและอยากอ่าน
นิทานสำหรับเด็กควรเป็นหนังสือภาพสำหรับเด็ก
ซึ่งหมายถึงหนังสือที่พ่อแม่อ่านให้เด็กฟัง ไม่ใช่หนังสือสำหรับเด็กอ่าน การเล่านิทานให้ลูกฟังด้วยเสียงตนเอง
ใช้ภาษาที่ดี เวลาเล่า ความรู้สึกของผู้เล่าจะผ่านไปสู่ตัวลูกด้วย
ถ้าผู้เล่านิทานรู้สึกตื่นเต้น ลูกก็จะรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย เป็นการสร้างความรู้สึกร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูกระหว่างการเล่านิทานด้วย
การเล่านิทานเพียง 5 – 10 นาที ต่อเล่ม
แต่ผลที่มีต่อลูกและความสุขในครอบครัวนั้นมหาศาล
ลูกจะได้รับการพัฒนาทักษะการฟังและการพูด สร้างจินตนาการแก่เด็ก ฝึกสมาธิ
ให้เด็กรู้จักสำรวจ ให้จดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง
ซึ่งเป็นพื้นฐานการเตรียมความพร้อมด้านการอ่านหนังสือและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กไปพร้อมๆกัน
การเล่นกับลูก สมองของคนเรามีอยู่
2 ซีก ซีกขวา และซีกซ้าย
ซีกขวาจะควบคุมการทำงานของร่างกายซีกซ้าย และสมองซีกซ้ายจะควบคุมการทำงานของร่ายการซีกขวา สมองทางซีกซ้ายเป็นส่วนที่ควบคุมการคิด และมีการทำงานที่ออกมาเป็นนามธรรม เช่น การนับจำนวนเลข, การบอกเวลา, การสรรหาถ้อยคำ, การหาเหตุผล เป็นต้น
ส่วนสมองซีกขวาจะทำหน้าที่จินตนาการ,
ฝัน, สร้างสรรค์ความคิดใหม่,
การซึมซาบในดนตรีและศิลปะ เป็นต้น
ดังนั้นการที่คนเราสามารถคิดสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้นั้น
เกิดจากการทำงานของสมองซีกขวานี้เอง เมื่อสมองซีกขวาทำงาน สมองซีกซ้ายจะรับหน้าที่แสดงผลการทำงานออกมาให้คนอื่นเห็น
เด็กในช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี เป็นวัยแห่งการคิดฝันจินตนาการ เด็กในวัยนี้ควรจะได้รับการกระตุ้น โดยการส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ความคิดจินตนาการของเด็กเองโดยการพัฒนาสมองทั้ง
2 ซีกไปพร้อมกันและเท่าเทียมกัน
การเล่นต่างๆ ที่สมวัยก็สามารถส่งเสริมการพัฒนาทางสมองซีกซ้ายของเด็กในวัยแรกเกิดจนถึง 6 ปีได้ โดยการเล่นของเล่นหรือหากิจกรรมต่างๆ
มาเล่นกับลูก เพราะการเล่นมีความสำคัญ สำหรับเด็กทุกคน ทุกวัย
ลูกจะเรียนรู้ได้มากจากการเล่น จะสนุกสนาน กับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ จากการเล่น
กับคนที่เขาเล่นด้วย ได้แสดงออก ได้เล่น เลียนแบบท่าทาง โดยเน้นที่ความสนุกสนาน
เพลิดเพลิน
อย่าทำให้ลูกมีความรู้สึกเหมือนถูกบังคับ
รวมทั้งพ่อแม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกของตน โดยทำตัวให้เหมือนกับที่ตนได้สั่งสอนลูก
เด็กจะสามารถพัฒนาความสามารถทางสมองของเขาเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะกลายเป็นเด็กที่มีความมั่นคงทางจิตใจ
มีความมั่นคงในตนเองมีเหตุมีผลในเรื่องต่างๆและที่สำคัญเด็กจะเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เพราะการเล่นมีความสำคัญ สำหรับเด็กทุกคน ทุกวัย ลูกจะเรียนรู้ได้มาก จากการเล่น จะสนุกสนาน
กับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ จากการเล่น กับคนที่เขาเล่นด้วย ได้แสดงออก ได้เล่น
เลียนแบบท่าทาง
เทคนิคการเล่านิทาน เป็นเคล็ดลับอีกประการหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ประสบผลสำเร็จในการส่งเสริมพัฒนาการ
ทักษะกระบวนการเรียนรู้ สติปัญญา จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ของลูก รวมถึงการปลูกฝังข้อคิดคุณธรรมในจิตใจของลูกได้เป็นอย่างดีด้วย
เช่น
4 การเล่าปากเปล่า ; ซึ่งเน้นการใช้น้ำเสียงหนัก – เบา อย่าตะโกน/ไม่ใช้คำหยาบ
4 การเล่าไปเล่นไป ; เป็นการเล่าที่ควบคู่กับการเล่น
4 การเล่าไปวาดไป ; เป็นการเล่าที่ประกอบการวาด
4 การเล่าไปฉีกไป ; เป็นการเล่าที่ประกอบกับการฉีกกระดาษอย่างสร้างสรรค์
4 เล่าไปให้อุปกรณ์ไป ; เป็นการเล่าที่มีอุปกรณ์มาประกอบเพื่อดึงความสนใจ
4 เล่าเรื่องที่ลูกสนใจ ; เป็นการเล่าที่เน้นในสิ่งที่ลูกสนใจ
เช่น การเล่าเรื่องสัตว์ เป็นต้น
4 การเล่าอย่างมีชีวิตชีวา ; เป็นการเล่าที่เน้นวิธีการเล่าที่สร้างให้ลูกสนใจและตื่นตัวในการฟัง
4 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ; เพราะในนิทานมีการสอนในหลานกหลายแง่มุม
ขึ้นอยู่กับมุมมอง/หลายแง่คิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น